สีเหลือง = หลักทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราต่อยอดได้ว่าหากตลาดหุ้นลงหนักๆ ถ้าหุ้นตัวใดไม่เปลี่ยนแปลงก็อาจตีความหมายว่า หุ้นนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าตลาดนั่นเอง
แท็กที่เกี่ยวข้องจีนตลาดหุ้นสหรัฐหุ้นร่วงตลาดหุ้นหุ้นขึ้นตลาดหุ้นจีนสีเขียวสีแดงตลาดหุ้นญี่ปุ่นสีดัชนีหุ้นสวมหมวกสีเขียวเทศกาลเช็งเม้ง
เนื้อหาเหล่านี้ก็ถือเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของตลาดหุ้น โดยจะเห็นความแตกต่างระหว่าง ตลาดหุ้นทั่วโลกอันมีตลาดหุ้น “สหรัฐ” ที่ทรงอิทธิพลที่สุด ใช้สีเขียวที่หมายถึงการเกิดใหม่และราบรื่น แทนหุ้นขึ้น ส่วนสีแดงที่เหมือนสีเลือดและการเตือนภัย สะท้อนถึงภาวะหุ้นร่วง
เพราะด้วยราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทำให้การใช้ “สี” สำคัญมาก
ขณะที่ “สีเขียว” แม้จะเป็นสีธรรมชาติและสบายตา แต่สีเขียวก็ถูกใช้ในเทศกาลวันเช็งเม้งหรือวันรวมญาติ เพื่อไหว้และระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
เปิดใจคุย "ธรณ์" วิกฤตปะการังฟอกขาว ในวันใต้ท้องทะเลไทยเดือด
วิธีเอาตัวรอดนั้นมีมากมาย แต่เราจะสรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ดังนี้
สีเขียว = click here หลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะมีการไล่เฉดสีจากเขียวอ่อนไปจนเขียวเข้ม ตีความหมายได้ว่าสีอ่อนจะมี % การเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าสีเข้มนั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ แม้แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากจีน ก็ใช้ทั้งสองสีนี้ในทำนองเดียวกันกับตลาดหุ้นจีน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
วัฒนธรรมจีนชื่นชอบสีแดงมาก มองว่า “สีแดง” เป็น “สีแห่งความมงคลและรุ่งเรือง” ดังจะเห็นได้จากเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานมงคลจีนล้วนประดับด้วยสีแดง
วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่มาของ ส.ส.ท.รู้จักอัตลักษณ์ไทยพีบีเอสโครงสร้างองค์กรคณะกรรมการนโยบาย ส.
จึงต้องทำความเข้าใจว่า "โลกสมัยใหม่ ตลาดหุ้น คือ หัวใจของเศรษฐกิจ"
คนส่วนใหญ่ซื้อขายหุ้นตัวไหน? นักลงทุนหลายคนคงอยากรู้ การนั่งไล่ดูหุ้นทีละตัว อาจใช้เวลานาน กว่าจะรู้ว่าหุ้นไหนเขียว หุ้นไหนแดงอาจทำให้พลาดโอกาสทำกำไร
ชุมชนนักอ่านนักเขียนที่คุณเลือกได้